วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Thai Teachers TV โทรทัศน์ครู : สอนวิทย์คิดสนุกกับเด็กปฐมวัย (กรรณิการ์ เฉิน)

สรุปทีวีครูเรื่องสอนสอนวิทย์คิดสนุกกับเด็กปฐมวัย
นำเสนอสื่อการทดลองวิทยาศาสตร์ของ คุณครูกรรณิการ์ เฉิน เพื่อเป็นเทคนิคในการพัฒนาการของเด็กปฐมวัยโดยใช้วัสดุรอบตัว โดยใช้น้ำตาลก้อนหยดสีลงไปแล้วดูการเปลี่ยนแปลงการใช้กระดาษทิชชูอธิบายความลับของสีดำซึ่งมีสีอื่นๆ ซ่อนอยู่มากมาย หรือการอธิบายเรื่องแรงตึงของผิวน้ำโดยใช้อุปกรณ์ง่ายๆ ที่อยู่รอบตัวในการอธิบายให้เห็นภาพ และเข้าใจได้ง่ายๆ

Thai Teachers TV โทรทัศน์ครู : สอนวิทย์คิดสนุกกับเด็กปฐมวัย (กรรณิการ์ เฉิน)

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สรุปวิจัยเรื่อง 
ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการทดลองหลังการฟังนิทาน


สรุปบทความเรื่อง เติม"วิทย์"ให้เด็กอนุบาล 
          
              วิทยาศาสตร์คือ ความพยายามของมนุษย์ที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจกับสิ่งรอบตัวและตัวตนของ ตนเอง ซึ่งความพยายามเช่นนี้จะติดตัวกับมนุษย์เรามาตั้งแต่แรกเกิด เห็นได้จากธรรมชาติของเด็กที่มีความอยากรู้อยากเห็น ช่างสังเกตและคอยซักถามเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาเจอ และบางครั้งก็เป็นคำถามที่ยากเกินกว่าที่ผู้ใหญ่จะให้คำตอบผู้ใหญ่ หลายคนที่ไม่เข้าใจในธรรมชาติความเป็นนักวิทยาศาสตร์ตัวน้อยๆ ของเด็ก จึงปิดกั้นโอกาสทางการเรียนรู้ของพวกเขาโดยการไม่ให้ความสนใจกับคำถามและการ ค้นพบแบบเด็กๆ หรือไม่ได้จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่จะส่งเสริมและต่อยอดทักษะและแนวคิด ที่ถูกต้องให้กับเด็กอย่างเหมาะสม
             “สำหรับ ปัญหาที่พบในขณะนี้ก็คือ บางครั้งเด็กมีคำถาม แล้วครูตอบไม่ได้ เพราะเราก็ต้องเข้าใจครูปฐมวัยด้วยว่า อาจไม่มีพื้นฐานในสายวิทย์มากนัก ดังนั้นเมื่อครูเกิดตอบคำถามเด็กไม่ได้ก็จะเกิดหลายกรณีตามมา เช่น ครูบอกเด็กว่า เธออย่าถามเลย เด็กก็ถูกปิดกั้นการเรียนรู้ไปเสียอีก กับอีกแบบคือ ครูตอบคำถามเด็ก ซึ่งกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ควรจะเป็นการเรียนรู้ไปด้วยกัน ให้เด็กหาคำตอบด้วยตัวเอง ไม่ใช่รอให้ครูหามาป้อน และถ้าครูตอบผิด เด็กก็อาจจำไปผิดๆ ได้” 
            แนวทางปฏิบัติ 5 ข้อดังนี้ สำหรับ ข้อ 5 นั้น ดร.เทพกัญญากล่าวว่า ในระดับเด็กอนุบาลอาจยังไม่สามารถก้าวไปถึงจุดนั้นได้ อาจต้องเป็นเด็กชั้นประถมศึกษาขึ้นไป แต่คุณครูก็ไม่ควรละเลย หากมีเด็กอนุบาลบางคนเข้าใจ คุณครูก็อาจช่วยให้เขาสามารถอธิบายได้แบบวิทยาศาสตร์แต่ถ้าไม่ถึงก็ไม่จำเป็นต้องเคี่ยวเข็ญเด็กๆ แต่อย่างใด ไม่เพียงแต่ คุณครูและโรงเรียนที่จะเป็นผู้ส่งเสริมทักษะด้านวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กๆ แต่พ่อและแม่เองนั้นก็มีบทบาทมากเช่นกัน แนวทางดีๆ ข้างต้น อาจเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้เด็กๆ และครอบครัวในยุคต่อไปเข้าใจ และรักใน “วิทยาศาสตร์“ ได้มากขึ้น

วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บันทึกเข้าเรียนครั้งที่18

เนื้อหาที่เรียน
 - cooking แกงจืดเต้าหู้
 ขั้นตอนการจัดประสบการณ์
- เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
- ครูพูดทักทายเด็กๆถ้าว่า "เด็กๆเห็นของที่ครูเตรียมมาวันนี้มั้ยค่ะ? มีอะไรบ้าง?"
- "เด็กๆคิดว่าวันนี้คุณครูจะพาทำอะไร? มีคนไหนอยากทำบ้าง?"
- ครูกับเด็กช่วยกันทำแกงจืด
- ครูคอยถามเด็กๆว่าเห็นอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เช่นสีของหมู ได้กลิ่นหอมของแกงจืด
- เมื่อทำเสร็จแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันอธิบายสักถาม ถึงขั้นตอนการทำแกงจืด การเปลี่ยนแปลงของสิ่งของต่างๆ ประโยชน์ของแกงจืด..


วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บันทึกเข้าเรียนครั้งที่ 17
วันที่ 16 กันยานย 2556
เนื้อหาที่เรียน
-เขียนแผนเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การทำcooking

บันทึกเข้าเรียนครั้งที่ 16
วันที่ 15 กันยายน 2556
 *เรียนชดเชยของวันที่ 9 กันยายน 2556

นำเสนอสื่อของเล่นเข้ามุม
- กล่องสัมพันธ์หรรษา
บันทึกเข้าเรียนครั้งที่ 15
วันที่ 9 กันยายน 2556

เนื้อหาที่เรียน
-ไม่มีการเรียนการสอน

หมายเหตุ
*เนื่องจากอาจารย์ติดธุละ
- นัดเรียนชดเชย วันที่15 กันยานย 2556 พร้อมนำเสนองานทุกอย่าง
บันทึกเข้าเรียนครั้งที่14
วันที่ 2 กันยายน 2556

เนื้อหาที่เรียน
-นำเสนอสื่อของเล่นเข้ามุมวิทยาศาสตร์
  กล่องสัมพันหรรษา


บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 13
วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2556

เนื้อหาที่เรียน
-ไม่มีการเรียนการสอน
หมายเหตุ
*เนื่องจากอาจารย์ติดธุระ


Thai Teachers TV โทรทัศน์ครู สนทนาเรื่อง สอนเด็กอย่างไรให้มีจิตวิทยาศาสตร์


บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 12
วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม 2556

เนื้อหาที่เรียน
  - วันอาจารย์ให้นำเสนอการทดลองเป็นกลุ่ม กลุ่มละ3 คน
  -กลุ่มของดิฉันนำเสนอการทดลองเรื่อง เปลวไฟลอยน้ำ

วัสดุ - อุปกรณ์

1. เทียนไข
2. แก้วน้ำ
3. หมุดตัวหมวก หรือตะปูเกลียวเล็ก
วิธีทำ

- ครูถามเด็กๆว่าเห็นอะไรที่วางอยู่บนโต๊ะบ้าง?
- เด็ก ........
- อุปกรณ์ที่ครูนำมาเด็กๆคิดว่าจะนำไปทำอะไรได้บ้าง?
- เด็ก ........
- ถ้าครูจุดเทียนแล้ววางลงในแก้ว เด็กๆคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
- เด็ก ........
- ครูสาธิตให้ดู พร้อมถามว่า เด็กๆคนไหนอยากออกมาช่วยครูทำบ้าง?
- เด็ก ........
- วางเทียนลงในแก้วน้ำ เมื่อเทียนดับ ก็ถามเด็กๆว่าทำไมเทียนถึงดับ? แล้วถ้าครูปักหมุดหัวหมวกใส่ที่ก้นเทียน แล้วจุดเทียนใหม่ วางเทียนลงในแก้วเหมือนเดิม เด็กๆคิดว่าเทียนจะดับใหม่?
- เด็ก........
- เมื่อทำการทดลองเสร็จก็มาถึงช่วงสุดท้าย ร่วมกนอธิบายสักถาม ว่าทำไมเทียนถึงดับ แล้วอปักหมุดหัวหมวกใส้ก้นเทียนแล้วเทียนไม่ดับ 
คำอธิบาย

เทียนไขลอยตั้งตรงได้เพราะหมุดหัวหมวกจะทำให้แนวน้ำหนักเทียนไขผ่านแท่งเทียน
เทียนไขลุกไหม้เพราะเทียนไขทำจากพาราฟินซึ่งไม่เปียกน้ำ
เทียนไขจะโผล่เหนือน้ำเล็กน้อย เพราะเทียนไขมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ
เทียนไขลุกไหม้เนื่องจากพาราฟินในเทียนไขไม่เปียกน้ำ และละลายให้ก๊าซที่ติดไฟตลอดเวลา

ภาพ การทดลองเปลวไฟลอยน้ำ

บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่ 11
วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2556

เนื้อหาที่เรียน
หมายเหตุ
* เรียนชดเชย นำเสนอของเล่น
 -เครื่องบินกระดาษ



ตัวอย่างการพับเครื่องบินกระดาษ
อ้างอิงจาก : http://www.aviationexplorer.com/

ทำไมเครื่องบินกระดาษถึงบินได้
          
อาจารย์ราม ติวารี นักวิชาการสาขาฟิสิกส์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เล่าถึงหลักการทรงตัวของเครื่องบินกระดาษว่า ต้องอธิบายการลอยของกระดาษ 1 แผ่นก่อน เมื่อเราปล่อยกระดาษจากที่สูงในแนวราบ กระดาษจะร่อนและลดระดับไปเรื่อยๆ สิ่งที่ทำให้เคลื่อนที่คือน้ำหนัก แรงดึงคือน้ำหนัก แรงที่ทำให้ลอยคือแรงต้านของอากาศ 

และเมื่อนำกระดาษมาวางบนมือแล้วพุ่งไปข้างหน้า กระดาษจะเคลื่อนที่ไปในระยะสั้นมากและไม่มีทิศทาง ก่อนจะหล่นลงมาภายใต้เงื่อนไข คือแรงโน้มถ่วง แรงอากาศ และแรงผลักหรือแรงพุ่งไปข้างหน้า 

เมื่อเรานำกระดาษเอ 4 โค้งเป็นตัวยูทั้งหัวและท้าย โดยไม่มีรอยพับ จับกระดาษทั้ง 2 ข้างพุ่งไปข้างหน้า แผ่นกระดาษจะมีแรงต้านลดลง และพุ่งไประยะทางเพิ่มขึ้น แต่ทิศทางไม่แน่นอนเหมือนกัน แต่เมื่อทำรูปแบบเดิมคือทำให้กระดาษโค้ง แต่กรีดเป็นรอยพับแนวยาวแล้ว พุ่งไป จะไปได้ไกลขึ้น ขณะที่กระ ดาษกางออกจะไม่เป็นแผ่นแต่จะเป็นรูปตัววี ซึ่งเป็นเชฟหรือรูปแบบที่เคลื่อนที่ในอากาศได้ง่าย 

อาจารย์รามบอกว่า การพับเครื่องบินไม่ว่าจะเทคนิคอะไร ตัววีเหมือนจรวด มีหัว มีปีกลู่ไปด้านหลังแล้วพุ่งไปด้านหน้า แรงที่กระทำจะเหมือนเดิม แต่แรงแหวกอากาศจะดีกว่า หลักการนี้ไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้ำอย่างปลาหรือเครื่องบิน สิ่งใดๆ ก็ตามที่เคลื่อนผ่านของไหล (ของเหลว ก๊าซหรืออากาศ) จะเคลื่อนที่ได้ไกลแม้จะมีแรงต้านหรือแรงพุ่ง 

การที่เครื่องบินกระดาษร่อนอยู่ในอากาศได้ยาวนานนั้น ไม่ว่าจะพับรูปแบบไหนผู้ร่อนต้องสังเกตขณะร่อน ทฤษฎีหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องคือ ทฤษฎีจุดศูนย์ถ่วงหรือจุดรวมน้ำหนัก ถ้าหาจุดศูนย์ถ่วงได้หัวจะไม่ปักพื้น นอกจากนี้เมื่อร่อนแล้วต้องสังเกตว่าถอยหลังหรือไม่ ถ้าถอยหลังแสดงว่าจุดศูนย์ถ่วงค่อนไปด้านหลังมากเกินไป ต้องปรับให้ได้ตำแหน่งที่พอเหมาะ 

วิธีการปล่อยเครื่องร่อนในมุมต่างๆ รวมถึงท่าทางการขว้าง หากเป็น การเล่นกอล์ฟจะเรียกว่ามีท่าสะวิง ซึ่งน้องหม่องเขามีวงสะวิงของเขาเอง วงสะวิงเป็นตัวสำคัญทำให้เครื่องร่อนโค้งในอากาศ ไม่มีแรงอื่นมากระทำ คือแรงน้ำหนักกับแรงต้านอากาศ 

ท่าส่งของผู้เล่นบวกกับมุมเงยมุมต่ำผสมกันทำให้เครื่องร่อนที่ปล่อยออกจากมือเคลื่อนที่ไปในอากาศได้นานที่สุด การควบคุมเครื่องบินกระดาษได้ดีต้องอยู่ในสถานที่ที่อากาศไม่เคลื่อนที่ ดังนั้นเวลาแข่งขันต้องอยู่ในห้องปิด ไม่เช่นนั้นจะบังคับทิศทางไม่ได้ จะไปตามแรงลม น้องหม่องทดลองในห้องปิด ไม่ใช่กลางแจ้ง เพราะถ้ามีลมแล้วจะควบคุมไม่ได้ 

น้องๆ บางคนอาจรู้จัก "หางเสือ" หางเสือเครื่องบินหรือหางเสือเรือมีไว้เพื่ออะไร 

อาจารย์รามให้ความรู้ว่าการติดหางเสือในรูปแบบต่างๆ เป็นการบังคับทิศทางให้เลี้ยวได้ เป็นการเคลื่อนที่ผ่านของไหล อย่างเช่นหางเสือของเรือ ขณะที่เครื่องร่อน การติดหางเสือมีผลต่อการเลี้ยวผ่านของไหลคืออากาศ 

ส่วนหัวเครื่องบิน ที่เรามักพับให้เป็นแหลมๆ รูปตัววีจะช่วยตัดลม ส่วนปีกใช้ในการประคองให้บินในแนวระนาบนานที่สุด คือกินลมได้นานที่สุด ซึ่งต้องทดลองดู เพราะไม่มีรูปแบบตายตัว การเล่นเครื่องร่อนเป็นศาสตร์ที่ต้องทดลองด้วยตัวเอง 

ด้าน นายประเสริฐ เฉลิมการนนท์ หัวหน้าโครงการสร้างความตระหนักและแนวคิดเชิงวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรมเครื่องบินกระดาษ ศูนย์เอ็มเทค แนะนำเทคนิคการพับเครื่องบินกระดาษให้ร่อนในอากาศได้ยาวนานว่า อย่าทำให้กระดาษยับเพราะจะทำให้อากาศที่ผ่านเครื่องบินแปรปรวน ซึ่งจะมีผลต่อการอยู่ในอากาศของเครื่องบิน นอกจากนี้ผู้พับอาจต้องทดลองร่อนเครื่องบินเพื่อศึกษาดูว่ามีข้อบกพร่องตรงไหน ซึ่งช่วยให้เรียนรู้กระบวนการทางวิทยา ศาสตร์อย่างเป็นขั้นตอนด้วย 

อาจารย์รามแนะนำคุณพ่อคุณแม่ต่อยอดการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ให้ลูกๆ ผ่านของเล่นด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการจุดประกายทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่จำเป็นต้องมีทุน หรือราคา อย่างน้องหม่องเขาเรียนรู้จากการติดดินและพุ่งขึ้นฟ้าได้เหมือนเครื่องร่อนของเขา เขาเองก็ไม่ได้มีต้นทุนมาก แต่สังคมยังมองว่าของเล่นก็ยังเป็นของเล่น ทั้งที่การเล่นนั้นเป็นสื่อการเรียนการสอนธรรมชาติที่มีวิทยาศาสตร์ สาขาต่างๆ ซ่อนอยู่มาก เพราะของเล่นผลิตขึ้นมาพัฒนาความคิดตามอายุในการเรียนรู้ ธรรมชาติของเด็ก 

"ของเล่นทุกชนิดมีวิทยาศาสตร์ซ่อนอยู่ แต่เล่นแล้วต้องมีคำถาม อย่างเด็กทั่วไปเล่นลูกข่าง แต่คำถามไม่เคยมีคือทำไมลูกข่างตั้งตรงได้เวลาหมุน มันดูเหมือนง่าย ทุกคนมองเห็นแต่ตอบยาก

หรืออย่างเหรียญบาทบางๆ หากเอาสันตั้งกับโต๊ะจะตั้งได้ยาก แต่ถ้าเรากลิ้งไป 100 ครั้ง ก็ไม่ล้ม 100 ครั้ง 

วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

บันทึกการเข้าเรียนครั้งที่10
วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2556

ไม่มีการเรียนการสอน
หมายเหตุ
* เป็นวันหยุดวันแม่แห่งชาติ


วันแม่แห่งชาติในประเทศไทย ปัจจุบันตรงกับวันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยเริ่มใช้วันดังกล่าวเป็นวันแม่แห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2519 ก่อนหน้านั้นเคยใช้วันที่ 10 มีนาคม, 15 เมษายน, และ 4 ตุลาคม
สัญลักษณ์ที่ใช้ในวันแม่คือ ดอกมะลิ ซึ่งมีสีขาว ส่งกลิ่นหอมได้ไกลและได้นาน อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปี โดยตีความเปรียบกับความรักบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่เสื่อมคลาย


บันทึกเข้าเรียนครั้งที่9
วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2556
ไม่มีการเรียนการสอน
หมายเหตุ
*อยู่ในช่วงสอบมิดเทอม

บันทึกเข้าเรียนครั้งที่ 8 
วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 2556
- ไม่มีการเรียนการสอน
หมายเหตุ
*อาจารย์ให้เตรียมตัว เอาหนังสือสอบ



บันทึกเข้าเรียนครั้งที่ 7
วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2556
*เรียนชดเชยวันหยุดที่22 กรกฎาคม 2556
 เนื้อหาที่เรียน
- อาจารย์ให้เข้าอบบรม เรื่องการทำสื่อการสอนของเด็กปฐมวัย

สื่อที่กลุ่มดิฉันทำ


บันทึกเข้าเรียนครั้งที่ 6
วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม 2556
 
ไม่มีการเรียนการสอน
*หมายเหตุ
 - วันเป็นหยุด วันอาสาฬหบูชา


บันทึกเข้าเรียนครั้งที่ 5 
วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2556


วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บันทึกเข้าเรียนครั้งที่ 4
วันจันรทร์ 8 กรกฏาคม 2556

อาจารย์แจกกระดาษA4 ให้ผับเป็นส่วนเล็กๆ8ส่วน แล้วตัดออกจากกันจะได้8 แผ่นแล้วนำมาเย็บแม็กจะได้เป็นสมุดเล่มเล็ก อาจารยืให้วาดรูปลงไปเป็นรูปอะไรก็ได้ โดยเพิ่มรายละเอียดมากขึ้นทีละแผ่นๆ



อาจารย์ให้ดู VDO เรื่องลม


บันทึกทึกเข้าเรียนครั้งที่3
วันจันทร 1 กรกฏาคม 2556

สรุปองค์ความคิดของวิทาศาตร์

ดู VDO เรื่องความลับของแสง
           
             การเคลื่อนที่ของแสง แสงเดินทางเป็นเส้นตรง
             วัตถุโปร่งแสง = แสงทะลุผ่านได้บางส่วนเท่านั้น
             วัตถุโปรงใส = แสงผ่านไปได้ทั้งหมด
             วัตถุทึบแสง = วัตถุที่แสงไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านได้

บันทึกเข้าเรียนครั้งที่2
วันจันทร์ 24 มิถุนายน 2556

                  วันนี้อาจารย์ให้แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ6คน ช่วยกันอ่านและสรุปใบงานที่อาจารย์แจกให้ กลุ่มละ6หัวข้อ เมื่ออ่านเสร็จ ก็ให้ตัวแทนแต่งละกลุ่มเดินวนไปทุกๆกลุ่มเพื่อคุย,ถามความคิดเห็นของกลุ่มอื่นๆ แล้วนำความคิดเห็นของกลุ่มอื่นและกลุ่มตัวเองมาสรุปอีกครั้ง นำเสนอหน้าห้อง
หัวข้อที่กลุ่มดิฉันได้ทำ
1. กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
2. แนวคิดพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
3. วิธีการทางวิทยาศาตร์
4. ความสำคัญของวิทยาศาสตร์
5. อุปสรรคการเรียนรู้
6. พัฒนาการทางสติปัญญา
บันทึกเข้าเรียนครั้งที่1
วันจันทร์ 17 มิถุนายน 2556

วิชาการจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
                 วิทยาศาสตร์ = การทดลอง
                                          สิ่งมีชีวิต-ไม่มีชีวิต
                                          ธรรมชาติ
                                          ความรู้,เนื้อหา,ทฤษฏี      
                  พัฒนาการ = การเปลีียนแปลงที่เป็นไปตามช่วงอายุ ไปตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง
                  ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา



206 อากาศมหัศจรรย์